18 กันยายน 2555

ไม่ง่าย


ถ้าหาข้อมูลเกี่ยวกับโรคซึมเศร้า
จะเจอคล้ายๆกันจนแทบจะท่องจำได้ คือ
อย่าหยุดยาเอง ต้องกินยาต่อเนื่องจนระยะเวลานึง
ถึงแม้ว่าจะรู้สึกว่าหายแล้ว ก็อย่าหยุดกินยาเอง
ต้องไปหาคุณหมอต่อเนื่อง บลาๆๆ อะไรประมาณนี้

ช่วงแรกๆฟังดูง่ายๆนะ
ยังคิดเลย ทำไมคนป่วย ไม่ทำตามคำแนะนำของหมอล่ะ
ทำไมคิดเองเออเอง หยุดยาเอง อย่างงั้นอย่างงี้

เกือบ 8 เดือนจากวันแรกที่จิตเวช มาถึงวันนี้ เข้าใจแล้ว
มันไม่ได้ง่ายอย่างนั้นหรอก

บางช่วง ก็กินยาไปตามปกติ ไม่ได้รู้สึกอะไร แค่มันต้องกิน
แต่อย่างช่วงนี้ อยากจะโยนยาทิ้งทุกวัน ไม่อยากกินแล้ว
มันเบื่อ เบื่อหลายอย่าง บอกไม่ถูก
ที่พอจะอธิบายได้คือ เวลาเกิดความรู้สึกที่เกินปกติ
เช่น เบื่อมาก เศร้ามาก หงุดหงิดมาก ฯลฯ
เราไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะอะไร

การไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร มันน่าหงุดหงิดมากนะ
ถ้าไม่ป่วย.. แล้วเกิดหงุดหงิด
ก็จะเข้าใจได้ว่า ไม่สบอารมณ์อะไรบางเรื่อง ทำใจร่มๆซะ เดี๋ยวก็หาย
หรือต่อให้หงุดหงิดจากฮอร์โมนแบบผู้หญิงๆ อย่างก่อนวันนั้นของเดือน
พอนึกขึ้นได้ มันก็จะอ๋อ แล้วก็โอเคจบ รู้แล้วว่าทำไม

แต่พอป่วย เอ๊ะ ยังไงล่ะ

เพราะยาที่กิน
เพราะมันคืออาการของโรค
เพราะนิสัยของเรา
หรือก่อนช่วงวันนั้นของเดือน ก็..เพราะฮอร์โมนอีก
มันรู้สึกเหมือนจะเป็นบ้า ว่าตัวเองเป็นอะไรแบบนี้

มีบางวันอยากจะโยนยาทิ้งไป
แล้วใช้ชีวิตไปดูซิ มันจะอะไรยังไงเหรอ
แต่มันก็ไม่ได้อยู่ดี เพราะเราก็รู้สึกว่า
นี่มันไม่ได้ใกล้เคียงเราเมื่อก่อนป่วยเลย

เอาเข้าจริง เราก่อนป่วย มันก็คงไม่กลับมาหรอก
เพราะคนเราเปลี่ยนทุกวัน ประสบการณ์แต่ละวันที่หลอมรวมมา
มันก็เป็นเราตอนนี้

แต่จะให้เราทำยังไง เราไม่แฮปปี้กับสิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้เลย
ศักยภาพทุกอย่างในการทำงาน หรือแม้แต่การใช้ชีวิต สูญหายไปกว่าครึ่ง
บางวันเราก็พยายามปลอบใจตัวเองว่า
เอาน่า ชีวิตแบบ Slow Life มันก็โอเคนะ
ช้าๆ เนิบๆ สบายๆ ไม่ต้องเร่งรีบ
แต่ภายในใจเราจริงๆ เราก็อยากให้คนเก่ากลับมา
และดูเหมือนว่า ยิ่งพยายาม มันยิ่งห่างไกลไปทุกที

หลายคน(รวมทั้งคุณหมอ)ก็บอกว่า ด้วยอายุที่มากขึ้นแล้ว
มันก็เป็นธรรมชาติ ที่มันจะต้องเป็นแบบนี้
ดูสิ อย่างอาจารย์หมอที่อายุมากๆ ก็ไม่สามารถจะอยู่เวรดึกได้แล้ว
อะไรทำนองนี้

เราเข้าใจนะ..
แต่ถ้าด้วยอายุ มันจะค่อยๆเป็นค่อยๆไปไง อย่างสมมติว่า
คนที่อาจจะชอบเที่ยวกลางคืนถึงเกือบเช้า
พออายุมากขึ้น มันก็จะเปลี่ยนเอง อาจจะแค่ตี2 ก็พอแล้ว
ซักพัก อาจจะแค่ห้าทุ่มเที่ยงคืน แถมความถี่ลดลง
หรือ สถานที่ไปก็แตกต่างจากอดีต ที่เคยชอบก็อาจไม่ชอบไป
มันจะเป็นแบบค่อยๆเป็น ค่อยๆไป

มันไม่ใช่แบบที่เราเป็น เรารู้สึกว่ามันกระชากมาก
เมื่อวันก่อน เรายังเป็นคนที่ร่าเริงสดใสกว่านี้
มีความคิด ความฝันอะไร ก็ลุย
เราทำอะไรได้มากมาย และยังอยากจะทำอะไรอีกมากมาย
เหมือนอยู่ๆ ข้ามจากช่วงอายุนึงไป แล้วแก่เลย
เนิบช้า ไม่อยากทำอะไร ไม่อยากไปไหน ไม่อยากดิ้นรนอะไรแล้ว

เราพยายามบอกตัวเองว่า ถ้าเราป่วยแบบที่ต้องผ่าตัด
เราก็ต้องเหลือร่องรอยของโรคอยู่ดี
อย่างแผลผ่าตัดมันก็ไม่มีทางหาย 100%

นับประสาอะไรกับโรคแบบนี้
ร่องรอยของโรค มันอาจจะเป็นแบบนี้ก็ได้
ซึ่งมันจะอยู่กับเราตลอดไป


หลายครั้งที่มีเรื่องมากมายอยากอัพ blog แต่ก็ไม่ได้อัพ
เพราะหลายครั้งเลย ที่เราไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เราเป็นอยู่นี่
มันคือ อาการป่วย ที่ยังไม่หายดี
หรือ มันคือ เราที่นิสัยเสียกันแน่
ถ้าเป็นเพราะนิสัย เราไม่อยากมาพ่นในblogนี้

แต่วันนี้ที่ตัดสินใจมาพ่นๆ
เพราะเราเห็นแล้วว่าหลายคนที่ป่วยเหมือนกัน
รักษาในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน
ล้วนแล้วแต่มีความรู้สึกหลายๆอย่างที่คล้ายกันตรงนี้
อาจจะแตกต่างในรายละเอียด เพราะชีวิตของแต่ละคนต่างกันไป

เราก็ขอบันทึกไว้ว่า มันไม่ง่ายขนาดนั้น
ไม่ใช่ป่วย หาหมอ กินยา เจอผลข้างเคียงของยา
ปรับยา ดูอาการ ปรับยา โอเคแล้ว ค่อยๆหยุดยา หายแล้ว บลาๆๆๆๆ

ไม่ง่ายนะ



+ + + + + + + + +

อ่านต่อ  --->  หยุดยาเอง