25 สิงหาคม 2555

คุณหมอของเรา [11th] & [12th]


แหง่ว ไม่ได้อัพจนต้องรวบยอดเลย

ครั้งที่ 11th - วันจันทร์ 23 กรกฎาคม 2555

เล่าย้อนนานมาก ก็เลยจำข้อมูลอะไรไม่ค่อยได้มากนัก
อาการนิ่งๆ แต่..มีปัญหาเรื่องการนอนกลับมาอีกแล้ว
คุณหมอเลยจ่ายยานอนหลับให้
พร้อมกับยาซึมเศร้าอีก 2 ตัว ซึ่งก็เป็นตัวเดิมที่กินอยู่
คุณหมอบอกว่า ครั้งนี้จะไม่ปรับยาก่อน

แล้วก็คุยกันเรื่องยานอนหลับ
คือ จริงๆเราไม่อยากกินเลย ที่ผ่านมาก็กินให้น้อยที่สุด
คุณหมอจ่ายยานอนหลับตัวเดิมที่เราเคยกิน
และบอกว่า อย่ากินติดกันเกิน 2 สัปดาห์ จะทำให้ติดได้
ถ้าพอนอนได้ เข้าที่เข้าทาง ก็หยุดซะ

เราถามว่า มันจะออกฤทธิ์ช้าเร็วขนาดไหน
คุณหมอบอกว่า ประมาณครึ่งชั่วโมง
เราถามกลับไปว่า แล้วถ้าครึ่งชั่วโมงแล้ว มันไม่ง่วงเลย จะทำยังไง
คุณหมอบอกให้กินอีกครึ่งเม็ด

ครั้งนี้ก็กลับไปพร้อมกับยาตัวเดิม บวกด้วยยานอนหลับ
และนัดอีก 1 เดือนต่อมา


ครั้งที่ 12th - วันพฤหัส 23 สิงหาคม 2555

เวลานัด 11.00 น. แต่ก็ต้องไปแต่เช้าอยู่ดี
ไปถึงจัดการชั่งน้ำหนักจดลงในใบนัด
แล้วไปวัดความดัน คลิปไปกับใบนัดเสร็จสรรพ ก่อนหย่อนลงกล่อง
จะได้ไม่ต้องให้คุณพยาบาลเรียกขอความดันอีกรอบ
แล้วหาที่นั่งติดฝา ตั้งหน้าตั้งตาหลับ
ก็ไปถึง ตั้งแต่ยังไม่ 8.00 น.ง่วงมากมายมหาศาลเลย

หลับๆตื่นๆไปหลายรอบ ทรมานมาก อยากกลับบ้านเร็วๆ
ราว 10 โมงกว่าๆก็ได้ยินคุณพยาบาลเรียกให้ไปนั่งรอหน้าห้อง
หยิบหมากฝรั่งมาเคี้ยวแก้ง่วงและเบลอ
ยังแอบคิดว่า คงคุยกับคุณหมอไม่รู้เรื่องแน่ๆ ง่วงขนาดนี้น่ะ

พบหมอครั้งนี้ เราก็บอกเลยว่า มันฟุ้งซ่าน คิดอะไรเยอะไปหมด
คือ ช่วงที่ผ่านมาเนี่ยะ เราไม่ได้ทำงาน จนกิจการแทบพัง
พอทำได้ ก็ทำไปงั้นๆพอประทัง แต่ตอนนี้เริ่มโอเคขึ้น
ความอยากทำนั่นนี่มันโผล่ขึ้นมาเต็มไปหมด
เหมือนชดเชยที่ไม่ได้ทำมานาน

ฟุ้งซ่าน นอนไม่หลับ ไหนจะกังวลอีกว่าจะเป็น Bipolar มั้ย
พอโปรเจคเต็มหัว ก็กังวล ยิ่งฟุ้งไปกันใหญ่
มีหลายอย่างจะทำ แต่กลับทำไม่ได้ ไม่มีแรงทำ

คุณหมอขอรายละเอียดสิ่งที่เราคิด จริงๆก็เล่าไปไม่ถึงครึ่งหรอก
แต่คุณหมอก็ช่วยเกลี่ยๆสิ่งที่เราพล่ามไป
ว่าจริงๆแล้ว นั่นมันเรื่องเดียวกันรึปล่าว
เราอึ้งไปนิดนึง เงียบไป 3 วินาที แล้วก็บอกคุณหมอว่า
" อืม มันก็เรื่องเดียวกันนะ "

คุณหมอถามว่าแล้วถ้ามันทำไม่ได้ตามที่คิดไว้ จะเป็นอะไรมั้ย
มันเลื่อนไปได้มั้ย เราก็พยายามบอกว่า บางอย่างก็ได้ ไม่ได้มีปัญหาอะไร
แต่บางอย่างมันไม่ได้ ..
จริงๆแล้วไอที่ไม่ได้น่ะ มันไม่ได้คอขาดบาดตายอะไรนะ
เราคิดนะว่า เราเอาวันมาตั้งเป็นเส้นตายให้เราทำนู่นทำนี่ต่างหาก
เพราะถ้าทำได้ มันก็เติมเต็มความรู้สึกหลายๆอย่างให้เรา
ถ้าทำได้ไม่ทัน ก็อาจจะเฟลนิดๆ
แต่เรื่องความเสียหาย ก็ไม่ได้มีอะไรมากมายนักหรอก

แล้วก็คุยเรื่อง to do list เรื่อง priority กันนิดหน่อย
เพื่อช่วยสะสางความฟุ้งซ่านของเรา
คุณหมอบอกว่า ไม่ใช่ Bipolar หรอก (คงเห็นว่าเรากังวลมาก)
แต่เอาจริงๆ จะเป็นอะไรมันก็ไม่มีอะไรหนักหนาแล้วล่ะ
ระยะเวลาเกินครึ่งปีที่อยู่กับโรคนี้ มันทำให้เราเรียนรู้ที่จะอยู่กับมัน
จะเป็นอะไรมากกว่านี้ ก็ต้องอยู่ให้ได้อยู่ดี

คุยเรื่องยานอนหลับกัน
เพราะที่ผ่านมา นอนไม่ได้ เราก็ไม่ได้ใช้ยานอนหลับนะ
กินเป็นแค่บางวันเท่านั้น ที่มันควรต้องหลับเพื่อจะต้องตื่นเช้า
แต่ก็แปลกที่กินแล้วไม่ง่วง ทั้งที่เราก็แอบไปหาข้อมูลมานิดหน่อย
ว่ายาที่คุณหมอให้น่ะ ถือว่าออกฤทธิ์เร็วแล้ว

เราถามคุณหมอว่า มีแบบกินปุ๊บ 5 นาที 10 นาที ง่วงพับไปเลยมั้ย
คุณหมอชะงักนิดนึง บอกประมาณว่า มันทำให้ติดง่าย
(เราแปลเอาเองนะว่ามี แต่คุณหมอไม่จ่ายให้หรอก)

คุณหมอจ่ายยานอนหลับตัวใหม่ให้
เพราะเรายืนยันว่า กินไปก็ไม่เห็นจะง่วงเลย
คุณหมอบอกว่า ตัวนี้ออกฤทธิ์ยาวกว่า เราขมวดคิ้ว
เพราะเราไม่อยากนอนนานๆ คือ อยากได้แบบกินปุ๊บน๊อคไปเลย
แล้วก็ตื่นสบายๆ ตื่นง่ายๆ (สงสัยต้องเป็นยาวิเศษแล้วล่ะ)

แต่เราก็ไม่ได้กังวลอะไร ได้ยาตัวใหม่มาเผื่อไว้ก่อนก็ดี
ยังไงยาตัวเก่าก็ยังมีอยู่พอสมควร เพราะกินไปไม่กี่ครั้ง

คุณหมอบอกว่า ถ้ายังนอนไม่ได้แบบนี้อีก
ต้องมาคุยกันเรื่องปรับยาซึมเศร้าแล้วล่ะ
ไม่ใช่มาเปลี่ยนยานอนหลับแบบนี้

เราก็เข้าใจนะ นี่เป็นการนัดสองครั้งติดกันที่เรามีปัญหาเรื่องการนอน
แสดงว่าเรามีปัญหาเรื่องการนอน ราวๆเดือนครึ่งถึงสองเดือนแล้ว
ถ้าคราวหน้ายังเป็นแบบนี้ มันคงไม่ค่อยดีเท่าไหร่

คุณหมอถามว่ามีอะไรจะถามมั้ย เราส่ายหน้า
คือ ถึงมีก็นึกไม่ออกหรอกค่ะ มันง่วงนอน
ก็เล่นนอนไม่หลับจนมาหลับเอาตี4 แล้วต้องตื่นตี5
ที่คุยกันรู้เรื่องขนาดนี้ ก็ถือว่าเยอะแล้ว

นัดครั้งหน้าอีก 5 สัปดาห์
แอบตื่นเต้น เพราะจะย้ายไปตึกใหม่ (เข้าใจว่าชั่วคราวนะคะ)
รู้สึกมีส่วนร่วม ว่าเป็นผู้ป่วยรุ่นย้ายตึก ^_^
อยากให้ถึงนัดครั้งหน้าเร็วๆจัง >_<






+ + + + + + + + +

อ่านต่อ  --->  ไม่ง่าย