24 มิถุนายน 2555

อยู่กับโรค ..ให้ได้ (ตอนที่2)


ตอนนี้เรายอมรับและเริ่มเข้าใจแล้วว่า
คงเป็นไปได้ยากที่เราจะกลับไปเป็นเหมือนเดิม

เราต้องเริ่มทำอะไรใหม่หลายอย่าง
เรื่องง่ายๆที่น่าจะทำได้ไม่ยาก แต่ยากมาก อย่างการเปิดมือถือ
เหลือเชื่อที่เราปิดมือถือถึง 5 เดือน
เบอร์มือถือหลายเบอร์ เราเริ่มปิดเบอร์ที่คนรู้เยอะที่สุด
ไล่มาเรื่อยๆ จนวันนึงถึงขนาดที่ปิดทุกอย่าง
เรียกว่า ถ้าไม่มาหาถึงบ้าน ก็ติดต่อไม่ได้

เราต้องค่อยๆเปิดมือถือทีละเบอร์
มันยากอย่างเหลือเชื่อ
แต่เราไม่อยากไปกำหนดอะไรแล้ว
ถ้าคิดว่าต้องทำให้ได้ แล้วมันไม่ได้ จะแย่ไปกันใหญ่
ตอนนี้ก็ถึงจุดที่ว่า เราเปิดมือถือทุกเบอร์
แต่จะรับเฉพาะเบอร์ที่มีการบันทึกในContactsเท่านั้น
เบอร์แปลกๆยังไม่รับ
ได้เท่านี้ เท่านี้ก็เท่านี้ค่ะ ค่อยๆทำไป ค่อยๆลองทำดู

เรื่องงานเป็นเรื่องที่ลำบากที่สุด
เพราะมันต้องปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น
คนที่นานๆต้องคุยซักครั้ง ก็ไม่เท่าไหร่
แต่คนที่ต้องคุยกันบ่อยๆนี่แหละ กลับทำให้เราลำบากใจ
โดยเฉพาะพนักงานของร้านตัวเอง

การต้องดูไม่เป็นผู้เป็นคนในสายตาลูกจ้างตัวเอง
คงเป็นอะไรที่แย่มากๆ
เราตัดสินใจบอกกับพนักงานของตัวเองว่าป่วย
แต่ไม่ได้บอกว่าเป็นโรคซึมเศร้า ..มันยากเกินที่หลายคนเข้าใจ
เราบอกไปว่าเป็น ธัยรอยด์
มันดูจับต้องยาก งงๆ ไม่รู้ว่าคืออะไร แต่คนส่วนใหญ่จะอ๋อๆไว้ก่อน

บอกไปว่าเราต้องกินยาทุกวัน บางวันหนักๆก็อาจจะลืมๆอะไรไปบ้าง
เพราะมันแย่มากเลย ที่สั่งงานไปแล้ว ตัวเองยังจำไม่ได้
การปกครองคน ไม่ใช่เรื่องง่าย
แต่เราก็ต้องยอมรับ ยอมเปลี่ยนวิธีการหลายๆอย่างที่เคยใช้ปกครองคน
บางอย่างมันคงไม่เหมาะกับคนที่ป่วย
เราพยายามเป็นเพื่อนร่วมงาน ทำงานซับพอร์ตกันไป
ไม่ใช่เจ้านาย กับ ลูกน้อง
และบางครั้งก็ต้องยอมที่จะผิดพลาดบ้าง ในฐานะเพื่อนร่วมงานคนนึง

เรื่องการรักษา ก็รักษาไปเรื่อยๆ กินยาไปเรื่อยๆ
ก็แอบหวังเล็กๆ ว่าถ้าวันไหนที่เจอยาที่OKกับเราแล้ว
ก็คงจะดีกว่านี้..
ถ้าแค่กินยาเม็ดสองเม็ดต่อวัน ก็ช่างมัน คิดซะว่าเป็นวิตามินละกัน
แต่ตอนนี้ยังคิดไม่ได้ เพราะ กินยาครั้งละ 6 เม็ด .. แย่หน่อย
แถมผลข้างเคียงของยา ยังรบกวนการใช้ชีวิตค่อนข้างมาก

ตอนนี้เราไม่มีความคิดว่ามันจะหายเมื่อไหร่แล้ว
หลายๆเรื่องเราต้องเริ่มใหม่ เหมือนเด็กหัดเดินเลย
แต่ก็ยอมรับไป อะไรยังทำไม่ได้ ก็ช่างมัน เดี๋ยวมันก็ได้เองซักวัน
ไม่อยากบีบบังคับตัวเองมากไป
เพราะถ้าคิดว่าต้องทำให้ได้ พอไม่ได้ หรือ ทำได้ไม่ดี ก็รู้สึกแย่อีก

จริงๆ ชีวิตแบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะ ไม่ต้องกดดันอะไรมาก


+ + + + + + + + +

อ่านต่อ  --->  หนักหนาสาหัส