28 มีนาคม 2555

ไม่เข้าใจเหมือนกัน


เราพบคุณหมอตามนัด เมื่อศุกร์ที่ 10 กุมภา
คุณหมอนัดอีกครั้ง พฤหัสที่ 1 มีนา
เพราะเดือนมีนา คุณหมอลงตรวจเฉพาะวันพฤหัส

เวลา 19 วัน ก็มีอะไรมากมายไม่ซ้ำแบบกันเลยค่ะ

ถัดจากวันที่ไปพบคุณหมอ
เป็นวันแรกตั้งแต่ไปรักษาตัว..ที่เราขับรถไกล
จริงๆคือ ไม่ถึง 20 กิโลเมตร แต่ก็ไกลมากแล้วสำหรับภาวะแบบนี้

เราขับรถไปหาเพื่อนรุ่นพี่ ที่เป็นเพื่อนสนิท
พี่เค้าทำงานครึ่งวันในวันเสาร์
เราไปรับที่ออฟฟิต เพื่อไปนั่งร้านกาแฟกัน
เม้าส์มอยกันตามประสาผู้หญิง

เราชอบนั่งร้านกาแฟมาก เป็นกิจกรรมที่ทำประจำ
แต่ครั้งนี้..เป็นครั้งแรกตั้งแต่ป่วยที่ได้ไปนั่งร้านกาแฟ
รวมทั้งได้เจอพี่เค้าด้วย
ตลอดมา ใช้วิธีการคุยกันทางตัวหนังสือ อธิบายว่าเป็นอะไร
ขนาดคุยโทรศัพท์ยังคุยไม่ได้

เราคิดว่า ถ้าเจอพี่เค้า จากภาวะที่เราเป็น
เราคงร้องไห้กลางร้านกาแฟแน่ๆ
แต่เปล่าเลย..
เรานั่งคุยกันอย่างมีความสุข เล่าเรื่องที่ป่วยให้ฟัง
จากปากตัวเองจริงๆซะที เล่าว่าไปโรงพยาบาลเป็นยังไง
อาการเป็นยังไง รู้สึกยังไง คุณหมอพูดอะไรบ้าง
คุยกันหลายเรื่อง หัวเราะกันไป ดื่มกาแฟกันไป

ความรู้สึกดีๆหลายอย่างเริ่มกลับมา
เพราะตลอดเวลาที่ป่วย เรามีปัญหาการคุยกับคนอื่นมาก

ป่วยปุ๊บ เราแบ่งคนเป็น 3 ประเภททันที ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน

1.คนสนิทมาก ก็คือ แฟนเรา และ เพื่อนรุ่นพี่คนนี้ เราจะคุยได้มากมาย

2.คนไม่รู้จัก เช่น ลูกค้าของเรา คนขายของทั่วไปที่เราไปซื้อ
รวมทั้งคนแปลกหน้าที่เจอ เราจะคุยได้เยอะมาก

3.คนรู้จัก แต่ไม่สนิท .. อันนี้น่ากลัวมาก
เพราะเรายกคนทั้งหมดนอกเหนือจากข้างบน มาไว้กลุ่มนี้หมดเลย
แม้แต่พ่อแม่และน้อง เราไม่อยากคุย คุยก็ฝืน
พยายามๆเลี่ยงทุกคน ถ้าจำเป็นต้องคุยก็จะไม่แฮปปี้เลย
เราไม่คุยกับน้อง ไม่รับโทรศัพท์พ่อแม่เราเอง ไม่อยากคุยอะไร
ไม่ยอมไปบ้านแฟน เพราะต้องเจอพ่อและพี่สาวเค้า
ทั้งที่เราเคยเข้านอกออกในได้สบาย ไม่เคยมีปัญหา
แต่พอเจอ..เราก็คุยไม่ออก ไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ ฝืนมากค่ะ

เราไม่รู้สาเหตุ และก็ลืมถามคุณหมอด้วยว่าเพราะอะไร

วันนั้น หลังออกจากร้านกาแฟแล้ว
เราขับรถไปร้านอาหารคนเดียว และสั่งอาหารมากินคนเดียว
ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ได้ทำมาร่วมเดือน

ตลอดเวลาตั้งแต่ไปหาหมอ
เราไม่กินข้าวเลย ถ้าแฟนเราไม่ซื้อมาให้ หรือ พาไปกิน
แม้แต่โทรศัพท์สั่งข้าวเราก็ไม่ทำ
หลายครั้งที่แฟนเรา ต้องออกมาจากออฟฟิต เพื่อซื้อข้าวมาให้
แล้วนั่งกินด้วยกัน เพราะรู้ว่า ไม่งั้น เราก็จะไม่กิน
เราไม่หิว ไม่อยากกิน ไม่อยากสั่งอาหาร
ทำให้เรากินข้าวแค่มื้อเดียว คือ มื้อเย็นที่แฟนเราจะมารับไปกิน
หรือซื้ออะไรมานั่งกินด้วยกันเท่านั้น

เราไม่ได้เรียกร้องความสนใจ แต่เราไม่หิวจริงๆ
และถึงหิว เราก็ไม่อยากสั่งอาหารจากร้านประจำที่เราเคยกิน
ซึ่งเราจัดอยู่ในคนกลุ่มที่3 ที่เรารู้จัก แต่ไม่อยากคุยด้วย

การที่เราได้แวะร้านอาหารคนเดียวในวันนั้น
สั่งอาหารมากินจนหมด และคุยกับเจ้าของร้าน(ร้านประจำ)
ทำให้เรารู้สึกดีขึ้นมากทีเดียว

ขออธิบายนิดนึง ว่า ก่อนหน้านี้ เราสามารถทำอะไรด้วยตัวคนเดียว
หลายอย่างที่คนอื่นไม่กล้าทำ เราก็ทำคนเดียวได้สบาย
เราไปเที่ยวคนเดียวบ่อยครั้ง
เราไปกินMKคนเดียว (ซึ่งไม่ค่อยมีคนกล้าทำ)
เราไปกินโออิชิ บุฟเฟ่ คนเดียวได้
พวกร้านบุฟเฟ่ที่คนอื่นไม่กล้าไปคนเดียว เราเฉยๆเลย
ไม่เห็นจะยากเย็นตรงไหน

แต่ป่วยปุ๊บ..เราทำไม่ได้ แม้กระทั่งโทรคุยกับคนรู้จัก

ซึ่ง..หลังจากนั้น เราได้หาข้อมูลจนไปพบคนที่ป่วยแบบเรา
(ทางinternet)
ข้อมูลจากสองคนที่เราได้พูดคุย ก็เป็นเหมือนเราเลย

คนแรก เป็นนักศึกษาปริญญาเอก เรียนอยู่ต่างประเทศ
ในที่สุดก็ต้องกลับมาเมืองไทย เรียนต่อไปไม่ได้
คนที่ไปเรียนต่างประเทศคนเดียว ย่อมทำอะไรเองได้สบายๆ
แต่เค้าเล่าว่า หลังจากป่วย..
แค่ไปซื้อของข้างบ้าน ต้องให้แม่พาไป เค้าไปเองคนเดียวไม่ได้

คนที่สอง ก็ต้องลาออกจากงาน มาอยู่บ้านเฉยๆ
จะไปไหน ก็ต้องพึ่งพาน้องสาว ไม่สามารถไปเองได้
ทั้งที่เมื่อก่อนก็มีชีวิตปกติ เป็นสาวออฟฟิตทั่วไป

เราไม่มีคำตอบสำหรับเรื่องนี้
แต่อยากขอให้เห็นใจคนที่ป่วย
เพราะช่วงแรกที่แฟนเราไม่เข้าใจ เราก็เจอปัญหา
เช่น คำถามว่าทำไมเราไม่ยอมไปบ้านเค้า
เรามีปัญหาอะไรกับที่บ้านเค้า โกรธ เกลียดใคร?
ซึ่งมันไม่ใช่เลย..
แต่กว่าที่เราจะอธิบายได้ มันกดดันมากจริงๆ
เพราะเราก็ไม่รู้เหตุผลเหมือนกัน



เราอยากขอให้คนอื่นเข้าใจคนที่ป่วยนะคะ
แต่เราก็ไม่รู้จะอธิบายยังไง
เพราะคนที่ป่วย ก็ยังไม่เข้าใจตัวเองเลย ว่าเป็นอะไร


+ + + + + + + + +

อ่านต่อ  --->  ขยะใต้พรม