27 มีนาคม 2555

ทางเลือกอื่น..มีมั๊ย?


เชื่อว่าหลายคนต้องตั้งคำถามว่า ซึมเศร้า เนี่ยะ
มันมีวิธีรักษาทางอื่นมั๊ย นอกจากกินยา

เราก็เคยคิด..

เพื่อนที่รู้ว่าเราต้องกินยา ก็ถามแทบทุกคนว่า
มันไม่มีวิธีรักษาทางอื่นเหรอ
กินยาอะไร? มันน่ากลัวนะ! ไม่ต้องกินได้มั้ย?

เราว่าชื่อโรค(หรือภาวะก็เหอะ) ที่แปลเป็นภาษาไทย
มันไม่เคลียนะ
ซึม ก็ทำตัวให้สนุกสิ เศร้า เดี๋ยวก็หายเศร้า ร่าเริงเข้าไว้ สู้ๆไรงี้

มันไม่ใช่เลย..

คนที่ไปถึงมือหมอเนี่ยะ มันเลยขั้นนั้นไปแล้ว
มันไปถึงขั้นรบกวนการใช้ชีวิตปกติ
เราช็อคนะที่ต้องกินยา
แต่เมื่อค่อยๆทบทวนดูแล้ว มันมีเหตุผลสมควร

ครั้งแรกที่พบคุณหมอ คุณหมอจะถามเรื่องงานอดิเรก(ประมาณนี้)
เช่น ชอบทำอะไร แล้วตอนนี้เป็นยังไง
คำถามนี้แหละ ที่สะกิดเตือนให้เรารู้ตัวเองว่า แย่แล้ว
ปกติ เราเป็นคนอ่านหนังสือ
หนังสือเล่มหนาๆ อ่านได้สบาย
แต่ที่สะกิดใจมากที่สุด คือ ปกติเราจะอ่านนิตยสารเยอะมาก
เดือนนึงเป็นสิบเล่ม แต่เราไม่ได้อ่านเลยมาราว2เดือนแล้ว
เราไม่ทันคิดว่ามันเกิดอะไรขึ้น ถ้าหมอไม่ถาม

เรามาย้อนคิด..นิตยสารเล่มโปรด วางอยู่ตรงหน้า
เราแค่หยิบมันมาพลิกๆ อ่านไม่ถึงหน้าก็วางบ้าง
ถ้าเป็นเมื่อก่อนเหรอ ไม่มีทาง เห็นปุ๊บคว้าปั๊บเลย
และจะไม่สนใจอย่างอื่น

สำหรับคนอื่น..อาจคิด แค่นี้ผิดปกติเหรอ
แต่สำหรับเรา เรารู้ทันที ว่าผิดปกติมากแล้วล่ะ

อีกเรื่องที่ผิดปกติ แต่เราเพิ่งสังเกตเห็น คือ การดูหนัง
ซึ่งเราชอบดูหนังที่บางครั้งมันต้องตีความ
หนังรางวัล หนังประหลาดๆ
ประเภทแปะรางวัล แล้วคนอื่นบอกไม่สนุก ดูยากจะตาย
เรายิ่งอยากดู
เราหมายรวมถึงแผ่นDVDด้วยนะ

เราเช่าหนังมาดูเรื่องนึง ก็เป็นหนังที่ไม่น่าดูยากเย็นอะไร
เกี่ยวกับตลาดเงินทุนในต่างประเทศ
และแน่นอน ถ้าหนังต่างประเทศ เราจะไม่ดูพากษ์ไทย
ยอมอ่านซับไตเติลเอา

แต่แล้ว.............
เราดูหนังไม่ได้ เราอ่านซับไม่ไหว มึน ปวดหัว
ไม่พอ เราดูได้ห้านาที ก็เสียสมาธิ
ทั้งที่เคยดูติดต่อกันได้ทั้งวัน
ครั้งนั้น เราใช้เวลากว่าสามวันถึงจะดูหนังเรื่องนี้จบ
มิหนำซ้ำ ยังต้องเปิดเสียงพากษ์ไทย

แค่นี้ก็เพียงพอ ที่จะทำให้เรารู้แล้วว่า
มันมีอะไรผิดปกติแล้วล่ะ

แล้วจะทำยังไง..
สะกดจิตเหมือนในหนัง?
ทำจิตบำบัดเหมือนในหนัง?
ที่นี่เมืองไทยนะ แค่เดินไปหาจิตแพทย์ก็ยุ่งยากกับชีวิตจะแย่แล้ว

เรามีทางเลือกอื่นเหรอ
นอกจาก..
วางใจในหมอ ให้เวลากับหมอ ให้เวลากับตัวเอง
และ กินยาตามที่หมอสั่ง

เพราะเราต้องการหายนี่นา


+ + + + + + + + +

อ่านต่อ  --->  ไม่เข้าใจเหมือนกัน